หลังคาลาดเอียงต่ำ คืออะไร?
รู้จักหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำ แตกต่างจากหลังคาลาดเอียงสูงอย่างไร
การออกแบบหลังคาแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ หลังคาลาดเอียงต่ำและหลังคาลาดเอียงสูง การจะเลือกว่าบ้านของเราเหมาะกับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำหรือลาดเอียงสูงนั้น เราควรรู้จักก่อนว่าหลังคาทั้งสองประเภทนี้คืออะไร มีความแตกต่าง และมีประโยชน์อะไรบ้าง เพื่อเลือกหลังคาที่ดีที่สุดสำหรับบ้านของคุณ
หลังคาลาดเอียงต่ำ คืออะไร ต่างยังไงกับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงสูง
หลังคาแบบไหนที่เรียกว่ามีความลาดเอียงต่ำ? คำว่า “ความลาดชัน” หมายถึงมุมหรือความชันของหลังคา ซึ่งโดยทั่วไปจะคำนวณจากความสูงในแนวดิ่ง โดยหลังคาที่มีความลาดเอียงต่ำจะมีความลาดเอียงน้อยกว่า 2-10 องศา ซึ่งจะมีความลาดเอียงน้อยกว่าหลังคาแบบลาดเอียงสูงที่จะอยู่ที่ 15 องศาขึ้นไป การวัดความชันของหลังคามีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดประเภทของหลังคาที่เหมาะสมกับโครงสร้าง วัสดุที่นิยมนำมาทำหลังคาลาดเอียงต่ำและลาดเอียงสูงที่ได้รับความนิยมคือ หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำได้ดีและติดตั้งง่าย ทั้งยังให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่าย ทันสมัย เหมาะกับบ้านสมัยใหม่ และยังช่วยให้โครงสร้างอาคารดูโดดเด่นอีกด้วย
ความแตกต่างของคุณสมบัติของหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำและแบบลาดเอียงสูง
หลังคาชิงเกิ้ลรูฟทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ และคุณสมบัติในการใช้งาน หลังคาลาดเอียงต่ำและหลังคาลาดเอียงสูงก็มีข้อดีในตัวเช่นกัน หลังคาลาดเอียงสูงเหมาะสำหรับอาคารที่มีพื้นที่ครอบคลุมจำนวนมาก หลังคาลาดเอียงต่ำเหมาะสำหรับการใช้งานที่อยู่อาศัยทั่วไป และที่อยู่อาศัยบางประเภท เช่น ระเบียงและเฉลียงที่มีหลังคาคลุม ซึ่งความแตกต่างของหลังคาทั้งสองประเภทนั้น มีดังนี้
- การติดตั้งและความคุ้มค่า
หลังคาลาดเอียงต่ำมีการติดตั้งที่ง่ายและถูกกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบโครงสร้างที่ซับซ้อนเพื่อรองรับ จึงใช้วัสดุน้อยกว่าหลังคาลาดเอียงสูง และการที่ติดตั้งง่ายกว่ายังช่วยลดค่าแรงได้อีกด้วย หากหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำตอบโจทย์การออกแบบอาคารหรือบ้านพักอาศัยของคุณได้ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและควรพิจารณา - ประหยัดพลังงานและช่วยลดความร้อนภายในบ้าน
หลังคาลาดเอียงต่ำจะมีค่าใช้จ่ายในการทำความร้อนและปรับอากาศได้น้อยกว่าหลังคาลาดเอียงสูง เพราะการสร้างหลังคาลาดเอียงสูงยังจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ห้องใต้หลังคา พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นนี้อาจส่งผลอย่างมากต่อการทำงานของระบบทำความร้อนและทำความเย็นเพื่อรักษาความสะดวกสบายให้กับพื้นที่อยู่อาศัย ทำให้การเลือกใช้หลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำจะประหยัดพลังงานได้มากกว่านั่นเอง - การระบายน้ำ
เมื่อฝนตกน้ำจะไหลลงจากหลังคาบ้านสู่รางน้ำด้านล่าง หากเลือกหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงสูงจะช่วยในการระบายน้ำได้ดีกว่าแบบลาดเอียงต่ำ ทำให้น้ำไม่สะสมบนหลังคา หลังคาจึงแห้งกว่า ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและโรคราน้ำค้างได้ ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานของหลังคาได้ - พื้นที่เก็บของเพิ่มเติม
หลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงสูงมักสร้างด้วยโครงสร้างรูปตัว A หรือหลังคาจั่ว ยิ่งหลังคามีความลาดเอียงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพื้นที่ใต้หลังคาบิวท์อินมากขึ้นเท่านั้น ทำให้มีพื้นที่เก็บของเพิ่มเติม ซึ่งหากคุณต้องการมีพื้นที่ใต้หลังคาสำหรับเก็บของมากขึ้น หลังคาลาดเอียงสูงก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหลังคาลาดเอียงต่ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความลาดเอียงของพื้นที่ด้วย - การบำรุงรักษา
หลังคาลาดเอียงต่ำจำเป็นต้องบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องมากขึ้น เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดการรั่วซึมมากกว่า ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาบ่อยกว่า ในขณะที่หลังคาลาดเอียงสูงทำให้การเข้าถึงและเดินรอบหลังคาทำได้ยากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นในการติดตั้งหลังคา และอาจทำให้การบำรุงรักษาหลังคายากกว่าหลังคาลาดเอียงต่ำ
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำ
หลังคาลาดเอียงต่ำถึงแม้จะได้รับความนิยม แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสึกหรอก่อนเวลาอันควรเนื่องจากปัจจัยหลายประการที่อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำนั้น ได้แก่
- คุณภาพการติดตั้ง และความเข้ากันได้ของวัสดุ
การติดตั้งที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องจัดวางแผ่นหลังคาให้ตรงตำแหน่ง เว้นระยะห่าง และยึดเข้ากับพื้นหลังคาให้แน่นหนา และการใช้วัสดุที่เข้ากันไม่ได้ระหว่างการติดตั้ง เช่น การติดตั้งแผ่นรองใต้หลังคาที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความเสียหายก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้หลังคาลาดเอียงต่ำมักต้องการวัสดุและการเคลือบพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ลาดชันต่ำ วัสดุเหล่านี้มีคุณสมบัติสะท้อนแสงเพื่อลดการดูดซับความร้อนและยืดอายุการใช้งานของหลังคา - การบำรุงรักษาและการระบายน้ำ
การระบายน้ำที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษวัสดุตกค้างในท่อระบายน้ำและรางน้ำ เพื่อป้องกันน้ำขังที่อาจทำให้วัสดุหลังคาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น - สภาพภูมิอากาศและสภาพอากาศ
อากาศร้อนและมีแดดจัดอาจทำให้แผ่นหลังคาแห้งและเปราะ นำไปสู่การแตกร้าวและการเสื่อมสภาพได้ รวมถึงพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและฝนตกบ่อยก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความชื้นสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดการผุพังและเชื้อรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนหลังคาที่มีความลาดเอียงต่ำ ซึ่งน้ำอาจระบายออกได้ไม่รวดเร็ว - การระบายอากาศและฉนวนกันความร้อน
การระบายอากาศในห้องใต้หลังคาที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการสะสมของความร้อนและความชื้น ซึ่งอาจทำให้แผ่นหลังคาเสียหายจากภายในสู่ภายนอก และควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิ ลดความร้อนภายในบ้านได้ - การบำรุงรักษา
เจ้าของบ้านควรตรวจสอบหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบลาดเอียงต่ำเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณความเสียหาย เช่น รอยแตกหรือรอยร้าวของแผ่นหลังคา การเจริญเติบโตของสาหร่าย หรือการสะสมของเศษวัสดุ หมั่นทำความสะอาดและกำจัดใบไม้ กิ่งไม้ และเศษวัสดุอื่น ๆ ออกจากพื้นผิวหลังคาเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการสะสมของความชื้นและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์ สามารถช่วยระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ - คุณภาพของวัสดุและประเภทของแผ่นหลังคา
แผ่นหลังคาแต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น แผ่นหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ Architectural Shingles มักจะมีความทนทานและใช้งานได้นานกว่าหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ Three-Tab Shingles ส่วนคุณภาพของแผ่นหลังคาเองก็มีผลต่ออายุการใช้งานเช่นกัน หลังคาคุณภาพสูงพร้อมการรับประกันที่ดีกว่าอาจมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า
สรุปแล้ว ควรเลือกหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบไหนดี ? ทั้งนี้ให้ดูจากโครงสร้างของบ้านและขนาด เพื่อพิจารณาเลือกได้อย่างเหมาะสม หลังคาลาดเอียงสูงจะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก หรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อพายุ ความลาดชันสูงช่วยระบายน้ำ และเศษซากต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการสะสมตัวของน้ำและความเสียหายได้ดี ในขณะที่หลังคาแบบลาดเอียงต่ำมักพบเห็นได้บ่อยในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศแห้งหรือมีฝนตกน้อย หลังคาแบบนี้สามารถให้การปกป้องที่เพียงพอในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศอบอุ่น พร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย
หากคุณไม่แน่ใจว่าหลังคาบ้านของคุณเหมาะกับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟแบบไหนนั้น สามารถปรึกษาเราได้ Roof Connext เราคือผู้นำด้านการจำหน่ายและติดตั้งหลังคามาตรฐานระดับประเทศที่คุณวางใจได้ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาชิงเกิ้ลรูฟที่มอบความทนทานและสไตล์ร่วมสมัย หรือหลังคาไม้ซีดาร์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความรู้ลึกซึ้งในทุกขั้นตอนของการติดตั้ง และคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง ไปจนถึงการติดตั้งที่ได้มาตรฐานทันสมัย เพื่อให้หลังคาบ้านของคุณสวยงาม ทนทาน และมีอายุใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ หลังคาไม้ซีดาร์
ติดต่อได้ที่ บริษัท รูฟ คอนเนคท์ จํากัด
Phone : 086-929-5555 , 081-787-2945
Email : roofconnext@gmail.com